สารสกัดจากปลาดาว ( SF Collagen )

สารที่สกัดได้จากสัตว์ทะเลนั้นมีหลากหลายชนิดที่ได้รับการยอมรับกัน หนึ่งในนั้นก็คือ “ดาวทะเล” ซึ่งไม่ได้จัดอยู่ในสัตว์จำพวกปลาที่มีกระดูกสันหลัง แต่จัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทกลุ่มเอกไคโนเดิร์ม ( Echinoderm ) ซึ่งสัตว์จำพวกนี้จะมีความสามารถในการปรับตัวได้ดี แม้ขณะที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งขาดหายไปยังสามารถที่จะงอกใหม่มาทดแทนได้ การวิจัยยังค้นพบอีกว่าในขณะที่ดาวทะเลมีการซ่อมแซมตัวเองนั้นจะมีเมือก( mucin ) เคลือบอยู่เพื่อลดความเสียดทาน และมีสารประกอบที่จัดอยู่ในจำพวกวิตามิน A ที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ นอกจากนี้แล้วหลายๆงานวิจัยยังได้ระบุไว้อีกด้วยว่าสารที่สกัดได้จากสิ่งมีชีวิตพวก เอกไคโนเดิร์มนี้ยังสามารถใช้ในการต้านเนื้องอก( anti-tumor )และเซลล์มะเร็ง( anti-cancer )ได้ด้วย  สามารถลดอาการอักเสบได้( anti – inflammation ) มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ( antioxidant ) ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและไวรัส 

          ประสิทธิภาพต่างๆของสารสกัดจากดาวทะเลไม่ว่าจะเป็นส่วนเมือก ( mucin ) หรือจากการสกัดด้วยตัวทำละลาย ( Starfish Extract ) ด้วยเอทิลเอทานอล( Ethanol )หรือเฮกเซน( Hexane ) ล้วนมีประโยชน์ต่อการบูรณะซ่อมแซมผิวเป็นอย่างยิ่ง สารที่สกัดได้จากดาวทะเลนั้นพบว่ามีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้จริง แต่ในปริมาณเท่าใดเพียงใดนั้นทางคณะวิจัยไม่ขอเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ ในเครื่องสำอางบำรุงผิวที่มีการผสมสารสกัดจากดาวทะเลได้ถูกนำมาวางขายกันบ้างแล้วราคายังค่อนข้างสูง แต่อีกไม่นานเมื่อความนิยมเพิ่มมากขึ้นผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเพิ่มปริมาณการผลิตและราคาต่ำลง ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่กำลังค่อยได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ การนำสินค้าเข้ามาทดสอบตลาดพร้อมกับการวิจัยอย่างต่อเนื่องเมื่อผ่านการวิจัยงานแล้วงานเล่าความน่าเชื่อถือจะมากขึ้นตามลำดับ ความปลอดภัยของตัวยาที่สกัดได้นั้นก็เป็นที่ยอมรับของผู้ที่ได้ทดลองใช้ว่าไม่มีอันตรายและช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดีจริง    
ปัญหาการเกิดริ้วรอยเป็นปัญหาที่แพทย์ผิวหนังพยายามหาวิธีแก้ปัญหากันมานานมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยที่เกิดตามวัยหรือริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยก็ตาม การเกิดริ้วรอยมีได้หลายสาเหตุคือ 

1.ริ้วรอยจากการทำงานของกล้ามเนื้อ ที่มาจากการควบคุมการแสดงออกต่างๆ หากทำงานไปนานๆเข้าริ้วรอยก็จะเกิดขึ้นตามร่องกล้ามเนื้อนั้นเช่น หน้าผาก ร่องแก้ม หัวคิ้ว หรือรวมไปถึงรอยตีนกาบริเวณหางตาทั้งสองข้างด้วย

2.ความเสื่อมของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนังอย่างคอลลาเจนและอิลาสติน เนื้อเยื่อเหล่านี้มักไม่มีการสร้างขึ้นมาทดแทน เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังที่บางลงจะทำให้ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อลดลงจึงเกิดเป็นริ้วรอยได้ตามธรรมชาติ

3.แรงโน้มถ่วงโลก ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยแต่เป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้มองเห็นริ้วรอยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างเช่นหนังตาย้อย มุมปากตก ผิวหนังหย่อนยาน เป็นต้น

4.การสูญเสียไขมันที่ผิว ผิวหนังหรือผิวหน้าจะมีการลดลงหรือสะสมไขมันในแต่ละจุดไม่เท่ากัน ส่วนมากแล้วไขมันมักสะสมอยู่ที่ข้างแก้ม ลำคอจึงทำให้ส่วนเหล่านี้มีความหนามากขึ้นเมื่อเทียบกับบริเวณรอบข้างจึงทำให้เกิดเป็นริ้วรอยขึ้นมา

        สำหรับการลดริ้วรอยนั้นไม่ว่าจะเป็นสารที่สกัดมาจากพืชหรือสัตว์ก็ตามวิธีการก็คือจะพยายามให้สารสกัดชนิดต่างๆเข้าไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างเช่นการใช้คอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งจะช่วยให้ผิวหนังมีความเต่งตึงและกระชับ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับสภาพและฟื้นฟูสภาพผิวที่เคยเสื่อมโทรมให้คืนสภาพแข็งแรงกระชับอีกครั้ง คอลลาเจนนี้สามารถถูกเสื่อมสลายได้เมื่ออายุมากขึ้น หรือถูกทำลายได้ถ้าโดนแสงแดดเป็นประจำ

      ด้วยการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีนักวิจัยก็สามารถที่จะดำเนินการสกัดสารต่างๆเพื่อใช้แก้ปัญหาริ้วรอยดังกล่าวนั้น เช่นการวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกน ในสหรัฐอเมริกา และมีการตีพิมพ์ไว้ในวารสาร อาร์ไคฟ์ส ออฟ เดอร์มาโทโลจี ที่เน้นการศึกษาการแก้ปัญหาริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย โดยมีอาสาสมัครสูงวัย อายุเฉลี่ย 87 ปี 36 คน ทำการทดลองทาโลชันที่มีส่วนผสมของเรตินอลซึ่งเป็นวิตามิน A ชนิดหนึ่ง  ให้ทำการทดลองโดยทาโลชันที่มีส่วนผสมของเรตินอลใต้วงแขนข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งทาโลชันที่ไม่มีส่วนผสมนี้ การทาโลชันใต้วงแขนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากแสงแดด และสามารถจะเปรียบเทียบผลการทดลองของเรตินอลได้อย่างถูกต้องว่ามีประสิทธิภาพลดริ้วรอยได้หรือไม่ อาสาสมัครจะทาโลชันสัปดาห์ละ 3 ครั้ง นานติดต่อกัน 24 สัปดาห์ ผลปรากฏว่าบริเวณที่ทาโลชันที่ผสมด้วยส่วนผสมของเรตินอลนั้นสามารถลดเลือนริ้วรอยได้จริง จากนั้นจึงทำการนำเนื้อเยื่อไปตรวจพบว่าเรตินอลช่วยกระตุ้นการผลิตสารเคมีที่สำคัญสองชนิดคือ glycosaminoglycan และ procollagen 

      การพัฒนายังคงดำเนินต่อไปความพยายามในการหาสารสกัดจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้มาถึงจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ สารสกัดคอลลาเจนธรรมชาติจากปลาทะเลน้ำลึกหรือที่เรียกว่า Marine Collagen Extract มีวิธีการสกัดที่ได้มาตรฐานได้รับการยอมรับแล้วว่าปลอดภัย พร้อมกันนั้นยังเพิ่มส่วนผสมของวิตามิน E ที่ช่วยในการปรับสภาพผิวและรักษาความชุ่มชื้น กรดไฮยาลูโรนิก( Hyaluronic acid ) ช่วยลดเลือนริ้วรอยอีกทางหนึ่งควบคู่ไปกับคอลลาเจน วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ( Free Radicle )และได้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสารสกัดจากดาวทะเลในที่สุดซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการลดเลือนริ้วรอยในปัจจุบันนี้

      SF Collagen (Star Fish Collagen) จัดเป็น Marine Collagen ที่สกัดจากปลาทะเล โดยโปรตีนและคอลลาเจนมากถึง 50% โดยที่โมเลกุลของคอลลาเจนที่ได้จากการสกัดดาวทะเลจะมีขนาด 1 ส่วนใน100 ส่วน ของคอลลาเจนทั่วไป และมีโครงสร้างคล้ายกับคอลลาเจนในร่างกายมนุษย์มากที่สุด ทำให้คุณสมบัติของโปรตีนคอลลาเจนจากดาวทะเล สามารถเข้าไปเพิ่ม หรือเสริมในส่วนต่างๆ ของผิวพรรณโดยเฉพาะบริเวณผิวหน้า SF Collagen เป็นชนิด Collagen Hydrolyzed (คอลลาเจน ไฮโดรไลเสท) ที่มีความคล้ายคลึงกับ Collagen type1 ด้วยวิธีการสกัด และพัฒนาวิจัย จากผู้เชี่ยวชาญในประเทศเกาหลี ทำให้ SF Collagen ที่สกัดจากดาวทะเล สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ถึงผิวชั้นลึก และด้วยคุณสมบัติของ Collagen type1 ที่ช่วยในการรักษาแผลเป็นของผิวหนัง จึงทำให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย รอยแผลเป็น ดีขึ้น อีกทั้งยังทำหน้าที่กระตุ้น เติมเต็ม และฟื้นฟู Collagen type3และ type4 ทำให้เกิดการฟื้นฟูของผิวหนัง ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ผิวจึงตึงกระชับเรียบเนียน เต่งตึง ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ช่วยปรับสมดุลผิวให้มีความแข็งแรงสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ เหมือนผิววัยแรกรุ่น  นอกจากนั้น SF Collagen ยังมีสรรพคุณเหมือนกับ Retinol หรือวิตามินเอ แต่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงเหมือน Retinol ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าไหม้ แดง อักเสบ ลอก หรืออื่นๆ แต่กลับช่วยในการบำรุงรักษาอาการผิวอักเสบ ไหม้ แดง ลอก ฆ่าทำลายเชื้อแบคทีเลียบนผิวหน้าได้ดี พร้อมกับช่วยผลัดเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวอ่อนแอ จากการแพ้เครื่องสำอาง สารเคมีต่างๆ เช่น สารสเตียรอยด์ สารปรอท และอื่นๆ รวมถึงผิวที่ต้องฟื้นฟู และต้องการดูแลเป็นพิเศษ ส่งผลให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน สู่ภายนอก